โดยคุณไผท ผดุงถิ่น ได้พูดถึงชีวิตของโครงการอสังหาฯ ใน 8 ปีข้างหน้าจะทำอย่างไรให้อนาคตข้างหน้ามีชีวิตที่ดีขึ้น โดยให้ความเห็นว่า ปัจจุบันนี้เมืองธรรมดาถูกพัฒนาให้กลายเป็น Smart City มากขึ้นโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับการพัฒนาเมืองให้มีความน่าอยู่ ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะของเมืองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่แค่ชีวิตคนในเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังรวมถึงการเดินทาง คนรับสร้างบ้าน คนขายวัสดุก่อสร้าง เทศบาล รัฐบาล นี่คือภาพรวม URBAN TECH ทุกอย่างมีส่วนร่วมกันมากขึ้น เพื่อทำให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้น มีความสุขอย่างยั่งยืน

สำหรับเรื่องการก่อสร้างนั้น ปัญหาที่พบคือส่วนใหญ่งานไม่เสร็จตรงเวลาและเกินงบประมาณ โดยคาดว่าอีก 8 ปีข้างหน้า เมื่อความไฮเทคต่างๆ มาเยือนทุกอย่างจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เพราะเมื่อมองย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2009 ชีวิตคนเราในสังคม ยังไม่ได้รับการอัพเดทเท่าไรนัก การติดต่อสื่อสารยังผ่าน BB

แต่ปัจจุบันนี้มีการเชื่อมต่อสื่อสารกันผ่านไลน์ และในยุคปัจุบันนี้ ชีวิตเรามีแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้น ชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมมาก หลายคนคิดว่าแอพพลิเคชั่นตอบโจทย์ทุกอย่างของชีวิต แต่ความจริงไม่ใช่เลย เราใช้กันจริงๆ ไม่กี่แอพเท่านั้น

แต่เดิมนั้น ทุกครั้งที่มีโปรเจคหรือโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น ความเสี่ยงย่อมตามมา แต่จะเห็นได้จากวงการอุตสาหกรรม ไม่ว่าธนาคาร การบริการเดี๋ยวนี้มีการโอนเงินเช็คยอดผ่านออนไลน์ได้แล้ว แม้แต่ในอสังหาฯ ก็ตามมีการจองคอนโดผ่านออนไลน์กันมากขึ้น

เมื่อเทคโนโลยีก้าวล้ำเข้ามา ในราคาที่ถูกและรวดเร็วขึ้น เราใช้ระบบสมาร์ทคอนแท็กได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะออกแบบ เซ็นเอกสาร และหลังจากนี้หากมี Drone เข้ามาช่วยในเรื่องจัดส่งทุกอย่างจะรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถวิดีโอคอลสื่อสารก็นได้สบาย ใครจะอยู่หน้างานไหนก็เพียงแค่วิดีโอคอล ก็สามารถเห็นทุกที่ทุกมุมได้ทุกไซต์งาน  

แม้ลูกค้าต้องการให้ซ่อมงานก็ตาม หากอีก 8 ปีข้างหน้าระบบถูกเชื่อมต่อ จะเรียกใช้บริการทีมไหน ก็สะดวกยิ่งขึ้น แถมปัจจุบัน เครื่องจักรหลายๆ ยี่ห้อ เริ่มฉลาดขึ้นเซนเซอร์ต่างๆ มีความเสถียรสามารถเรียกคนมาซ่อมได้เลย เพราะมีสัญญาณเตือน   

โดยเชื่อว่าอีก 8 ปีข้างหน้ามีสิ่งท้าทายให้เรียนรู้อีกมาก แต่อุปสรรค์ที่จะทำให้มันไม่เกิดขึ้นเห็นจะเป็น Mindset ที่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าล้มกระดานใหม่ เปลี่ยนวิธีคิด เสาะหาวิธีทำงานใหม่ๆ ด้วยการที่ไม่แบ่งแยกว่าใครเป็นนายใคร หันมารวมแรงกัน ปรับเปลี่ยนให้มันเป็น Project alliance ด้วยการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ โดยเชื่อเหลือเกินว่าหากมีการส่งมอบสิ่งดีๆ ที่มีคุณภาพให้แก่กัน โดยใช้เวลาอันรวดเร็วสามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน

ทั้งนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในวงการก่อสร้างยังคงต้องการเด็กใหม่ๆ มาทำงาน แต่ ณ ปัจจุบันที่เกิดขึ้น เด็กจบใหม่ ไม่อยากทำงานด้านนี้ อยากรวยเร็วด้วยการเล่นหุ้น ไม่อยากตากแดด ปัญหาเหล่านี้ต้องกลับมามองตัวเราอีก เราทำให้วงการเราไม่น่าทำ ไม่น่าอยู่หรือเปล่า ต้องเริ่มเปลี่ยนความคิดคนทำงานในวงการเราก่อน แล้วค่อยปูอนาคตใหม่

สุดท้ายไม่ว่า 8 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ลองมองย้อนดูตัวเอง ว่า 8 ปีข้างหน้าจะเป็นแบบไหน  แล้วมาวางแผนร่วมสร้างออกแบบอนาคตตัวเองดีกว่า

ดาวน์โหลดข้อมูล : คลิก