การลงทุนมีความเสี่ยง จากสถิติคนส่วนใหญ่มักขาดทุน มีเพียงคนส่วนน้อยที่ได้กำไร เพราะคนส่วนน้อยเป็นผู้รู้จริงในการลงทุนประเภทนั้นๆ ซึ่งความสำเร็จมาจากความทุ่มเทศึกษาด้วยใจรัก พัฒนาจนได้วิธีคิดที่ถูกต้อง และลงสนามลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

         ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด การลงทุนคอนโดปล่อยเช่าควรเริ่มจากการถามตนเองว่า ชอบลงทุนคอนโดและพร้อมลงทุนระยะยาวไหม ถ้าใช่ก็เริ่มศึกษาเข้าเว็บอ่านรีวิวคอนโดทุกวัน และมีเวลาว่างก็แวะเยี่ยมชมโครงการทุกสัปดาห์ ทำไปสักพักหลายเดือนคุณจะเริ่มเข้าใจวิธีคิดวิธีเลือกคอนโดที่น่าลงทุนดูยังไง ถึงจุดนี้ก็เริ่มลงทุนเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการลงทุนจริง บางคนมีเพื่อนเป็นนักลงทุนคอนโดอยู่แล้วก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ คอยถามคอยติดตามการลงทุนของเขา

         ช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนโดยังอยู่ในภาวะจำนวนคอนโดมากล้นเกินความต้องการ (Over Supply) โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง-ล่าง หาคนซื้อหาคนเช่ายากกว่าเมื่อก่อน สวนทางกับราคาคอนโดยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ผลตอบแทนลดลงจนหลายโครงการไม่คุ้มลงทุน การเลือกคอนโดที่จะลงทุนต้องรอบคอบ ศึกษาเปรียบเทียบทั้งคอนโดใหม่และคอนโดมือสอง เพราะหลายที่ราคาต่างกันครึ่งต่อครึ่ง เนื่องจากนิสัยคนไทยชอบซื้อคอนโดใหม่มากกว่าคอนโดมือสอง คอนโดที่คุ้มค่าน่าลงทุนจึงมักเป็นคอนโดใหม่ใกล้โอน แต่ยังขายราคาเดิมเมื่อ 2-3 ปีก่อน และคอนโดมือสองที่อายุยังไม่มากเกิน 5 ปี

         ไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี หากเป็นผู้รู้จริงในการลงทุนคอนโดปล่อยเช่าก็ย่อมมีโอกาสแสวงหากำไรเสมอเพียงแค่ช่วงนี้หายากหน่อย ผมเลยเขียน 11 เคล็ดลับทำคอนโดปล่อยเช่าให้ได้กำไร มาฝากเพื่อใช้เป็นเครื่องมือเฟ้นหาคอนโดที่น่าสนใจครับ

         1. เลือกทำเลใกล้แม่เหล็กดึงดูดคนจากทุกสารทิศ
แม่เหล็กชั้นดีสุดที่จะดึงดูดคนต่างพื้นที่เข้ามา คือ มีรถไฟฟ้าผ่าน ปัจจัยถัดมา คือ ใกล้แหล่งทำงาน แหล่งช้อปปิ้ง ทางด่วน วิวแม่น้ำ วิวทะเล และวิวสวนสวย ฯลฯ ทำเลแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใครยิ่งมีแม่เหล็กมากยิ่งดี

         2. มองโครงการที่มีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต
กำไรคอนโดมาจากค่าเช่าและส่วนต่างราคาซื้อขาย ควรเลือกลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดีทั้งสองอย่าง ซึ่งคอนโดที่มีมูลค่าสูงขึ้นก็จะช่วยฉุดราคาค่าเช่าให้เพิ่มขึ้นด้วยไม่มากก็น้อย โดยมูลค่าเพิ่มก้าวกระโดดจะเกิดจากการมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ เช่น รถไฟฟ้ากำลังตัดผ่าน เปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ เป็นต้น

         3. สภาพแวดล้อมน่าอยู่ไม่ปล่อยให้โทรม
สภาพแวดล้อมภายในโครงการและภายในห้องต้องดูดีคนถึงจะมาเช่าอยู่และยอมจ่ายอัตราค่าเช่าที่สูง โดยสภาพภายในห้องโทรมยังพอซ่อมได้ แต่สภาพภายในโครงการโทรมซ่อมยากต้องแจ้งผ่านคณะกรรมการนิติบุคคล หลายแห่งมีเงินไม่พอซ่อม เพราะเกิดปัญหาค้างชำระค่าส่วนกลาง

         4. ขนาดห้องพอเหมาะไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
อัตราค่าเช่าสำหรับห้องขนาดเท่ากันในโครงการเดียวกันมักจะเท่ากัน โดยแทบไม่สนใจว่าซื้อมาทิศแพงกว่า อยู่ชั้นสูงกว่า ขนาดห้องใหญ่กว่าเล็กน้อย เพราะคนเช่ามีงบจำกัดเค้าต้องการห้องขนาดที่พอเหมาะ ซึ่งหากคนเช่าเป็นคนไทยอยู่กัน 2-3 คน ขนาด 1 ห้องนอนที่เหมาะสม 28-35 ตารางเมตร 2 ห้องนอนที่เหมาะสม 45-60 ตารางเมตร

         5. ราคาต่อตารางเมตรน่าคบไม่แพง
ราคาคอนโดเปิดใหม่ใจกลางเมืองอย่างย่านอโศก ทองหล่อ วิทยุ มาทำคอนโดปล่อยเช่าไม่คุ้มแล้ว เพราะราคาที่ดินแพงขึ้นมาก แต่สาเหตุที่ยังขายดีมาก เพราะส่วนต่างราคาซื้อขายขยับเร็ว สำหรับคนที่สนใจลงทุนคอนโดปล่อยเช่าควรขยับไปดูย่านอื่นอย่างรัชดา-พระราม 9 อ่อนนุช กรุงธนบุรี เป็นต้น

        6. ใช้เงินเย็นมาลงทุน ไม่รีบร้อนขาย
แม้ว่าคอนโดถือเป็นอสังหาฯที่มีสภาพคล่องสูงสุดแต่ก็ยังใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาคนเช่าหรือหาคนซื้อต่อ ไม่ง่ายเหมือนหุ้นที่สั่งขายปุ๊บก็ทำได้ทันที ดังนั้น การใช้เงินเย็นมาลงทุนทำให้ไม่จำเป็นต้องรีบขายสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมให้ได้รับกำไรสูงสุด

         7. ผลตอบแทนแบบไม่มโน ต้องคุ้มเกิน 7% ขึ้นไป
บางคนทึกทักเอาเอง บางคนเชื่อพนักงานขายประจำโครงการว่า ปล่อยเช่าจะได้รับค่าเช่าสูง เราต้องหาข้อมูลเองว่าโครงการแถวนั้น เกรดและขนาดห้องคล้ายกันปล่อยเช่าที่เท่าไร จากนั้นนำมาคำนวณ
ค่าเช่าต่อเดือน คูณ 12 แล้วหารด้วยราคาคอนโดที่ซื้อมา แล้วคิดเป็นเปอร์เซนต์ หากได้ผลตอบแทนเกิน 7% ก็ดี เพราะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 3 ปีแรกประมาณ 2%-3%

         8. หาดอกเบี้ยเงินกู้ถูกสุดเทียบหลายธนาคาร
ลงทุนคอนโดต้องอย่าขี้เกียจ ดอกเบี้ยเงินกู้ถือเป็นต้นทุนหลักสำหรับการลงทุน เราควรเปรียบเทียบอย่างน้อย 5 ธนาคาร แล้วยื่นกู้อย่างน้อย 3 ธนาคาร เพื่อเลือกธนาคารที่เสียดอกเบี้ยต่ำสุด วงเงินกู้ได้ตามต้องการ และมีเงื่อนไขรับได้ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก โดยการซื้อคอนโดใหม่กับแบรนด์ดังมีข้อดีตรงที่มักได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคาร

         9. ตกแต่งห้องให้ครบ คุมงบให้อยู่
คนเช่ามักเลือกห้องที่พร้อมสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ดังนั้น เจ้าของควรเตรียมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นให้พร้อม ซึ่งเฟอร์นิเจอร์มีแบบวางลอยกับบิวท์อิน แบบวางลอยถูกกว่าเยอะ ย้ายที่ได้ เปลี่ยนง่ายกว่า แต่สวยน้อยกว่า ส่วนตัวชอบลงทุนแบบวางลอย ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็น่าจะเตรียมคล้ายโรงแรม ส่วนตัวผมเลยไม่มีเครื่องซักผ้า เพราะโครงการมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ หรือผู้เช่าบางคนหิ้วกลับไปซักที่บ้าน

         10. เลือกคนเช่าให้ดี จ่ายตรง ไม่ทำห้องพัง
ทั้งเจ้าของห้องและผู้เช่ามีสิทธิ์เลือกทั้งคู่ ดังนั้น ผู้เช่าที่ดูไม่น่าไว้วางใจก็ปฏิเสธได้ เจ้าของห้องควรถามคำถามกับคนที่จะมาเช่าให้รู้เรื่อง (Know Your Customer) โดยตั้งคำถามว่า ทำงานอะไรเพื่อดูความสามารถชำระค่าเช่า อยู่กันกี่คน ทำอาหารผัดกับข้าวในห้องไหม สูบบุหรี่หรือไม่ ทำความสะอาดห้องบ่อยไหม เพื่อประเมินว่าห้องจะมีสภาพเช่นไร

         11. หาคนเช่าให้เป็น ไม่ปล่อยห้องว่างนาน
ตลาดคอนโดไม่ง่ายเหมือนตลาดหุ้น การหาคนเช่าที่ดีได้เร็วเป็นเรื่องท้าทาย เพราะถือเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สำคัญ ดังนั้น ควรประกาศผ่านหลายช่องทาง และเมื่อคนเช่าจะย้ายออกก็รีบหาคนใหม่แทน ซึ่งระยะเวลาหาไม่ควรเกิน 3 เดือน ถ้านานกว่านี้ควรให้นายหน้าช่วยหา โดยจะถูกหัก 1 เดือนเป็นค่านายหน้า ณ วันทำสัญญาเช่า

ขอบคุณข้อมูลจาก: www.krungsri.com