ค้นหาข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

  • Projects
  • News
  • Property
  • How to

“ที่ดินเปล่า” ทำตลาดนัดยังไงให้รวย

20 มิถุนายน 2560

         ที่ดินเปล่า เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใช้มากเท่าไร มูลค่าก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะผลจากการใช้ประโยชน์เริ่มแรกที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดประโยชน์ได้เรื่อยๆ แต่ถ้าหากไม่ใช้ประโยชน์อะไร ที่ดินจะไม่มีการเพิ่มมูลค่าเลย ดังนั้น หนทางที่จะทำให้ที่ดินเปล่ามีประโยชน์ขึ้นมา ก็คือการทำเป็นตลาดนัด ซึ่งตลาดนัดที่เป็นที่นิยมกันก็คือ ตลาดนัดแบบลานโล่งเพราะใช้เงินลงทุนน้อยและมีความเสี่ยงต่ำ

         การทำตลาดนัดแบบลานโล่งมักนำมาใช้กับที่ดินเปล่าแถวต่างจังหวัด ที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไม่เกิน 2 กม. และเดินทางได้สะดวก เพราะคนต่างจังหวัดมักนิยมเดินตลาดนัดแบบแบกับดิน ซึ่งการทำตลาดนัดแบบแบกับดินนั้น ทำเป็นแบบเปิดโล่งจะเหมาะที่สุด เพราะทำง่ายและใช้งบลงทุนไม่มาก อีกทั้งยังไม่เน้นความหรูหรา แต่เน้นความสะอาด พื้นเทปูน ไฟสว่าง เพื่อป้องกันปัญหาวิ่งราว

      สำหรับทำเลที่เหมาะกับการทำตลาดนัด อาจจะไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ไม่ควรห่างมากจนเกินไป เพราะจะเน้นความสะดวกสบาย เดินทางสะดวก และมีที่จอดรถรองรับ ส่วนการลงทุนทำตลาดนัดนั้นจะทั้งหมด 2 แบบ คือ การลงทุนบนที่ดินเปล่าของตัวเอง หรือดำเนินการบนที่ดินของคนอื่น ซึ่งการลงทุนบนที่ดินของคนอื่น จะใช้งบเริ่มต้นเพียงไม่เกิน 200,000 บาทต่อการจัดตลาดนัด 1 แห่ง

ขั้นตอนการดำเนินการ มีดังนี้
       1. เริ่มจากสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสม ดูทำเลที่เป็นลานดินว่าสามารถพัฒนาได้หรือไม่ แล้วค่อยตกลงเจรจากับผู้ถือครองที่ดิน

       2. ตกลงกับผู้ถือครองที่ดิน เน้นทำธุรกิจร่วมและแบ่งผลตอบแทนจากการเช่าแผงค้าและส่วนอื่นร่วมกัน และต้องตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจน

       3. สำรวจพื้นที่ในการทำตลาดนัด ควรมีขนาดที่ดินตั้งแต่ 2 ไร่ขึ้นไป จะสามารถวางแผงได้ประมาณ 150-200 แผง ซึ่งการทำแผงนั้นคือต้องวัดพื้นที่ทั้งหมดก่อน แล้วค่อยมาจัดวางผัง กำหนดรูปแบบสินค้าว่าควรอยู่ตรงไหนบ้าง แยกหมวดหมู่ให้ชัดเจน โดยแผงค้าควรมีขนาด กว้าง 3 เมตร ยาว 3.50 เมตร และแบ่งช่องทางเดินให้ผู้มาจับจ่ายด้วย

       4. เมื่อจัดแผงค้าได้แล้ว ก็มาดูเรื่องของวันเวลาที่จะเปิดขาย ซึ่งการกำหนดวันเวลาที่เปิดขายนั้น จะดูจากชีวิตประจำวันของในท้องที่ และเคล็ดลับก็คือต้องมีกำหนดเปิดขายตามเวลานั้นๆเป็นประจำ เพื่อให้คนจำได้ เช่น วันศุกร์-อาทิตย์ ช่วงเย็น , วันจันทร์-อังคาร ช่วงเย็น , วันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. หรือจะเปิดให้บริการตลอด 7 วัน แต่จะต้องมีสินค้าแตกต่างกันไปในแต่ละวัน เพื่อสร้างความโดดเด่นของตลาด

       5. ประชาสัมพันธ์ แค่ทำแผ่นพับ หรือขึ้นป้ายโฆษณาให้สะดุดตา แต่ถ้าเป็นในกรุงเทพฯ การทำตลาดนัดจะค่อนข้างใช้เงินทุนมากกว่า เพราะต้องเน้นรูปแบบการตกแต่งแผงค้าเพื่อดึงดูดคน

ขอบคุณข้อมูลจาก: www.home.co.th

Share