ค้นหาข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

  • Projects
  • News
  • Property
  • How to

เจ้าสัวเจริญ ซื้อโรบินสัน สีลม เติมพอร์ตมิกซ์ยูส 1.66 แสนล้านบนพระราม 4

28 เมษายน 2564

         ตั้งแต่เริ่มปี 2564 เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี มีความเคลื่อนไหวออกมาเป็นระยะๆ ทั้งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย

ตะลุยซื้อไปแล้วเกือบ 5,000 ล้าน
          โดยในช่วงต้นเดือนมีนาคม เฟรเซอร์ส ประกาศตั้งบริษัทเพื่อลงทุนในเวียดนามรวม 8 บริษัท พร้อมกับใช้งบซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ที่เมืองบินห์เดือง มูลค่ารวม 1,435 ล้านบาท

          ถัดมาอีกไม่กี่วันก็แจ้งการซื้อสิทธิการเช่าซึ่งยังเหลือสัญญาเช่าอยู่ 46 ปี และอาคารส่วนที่เหลือในโครงการเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจากกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลด์ มูลค่ารวม 1,574 ล้านบาท โดยที่ทางแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเฟรเซอร์ส ถือหุ้นในกองทุนอยู่ดังกล่าวอยู่ 33%

         ล่าสุดใช้เงินลงทุนอีก 1,800 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท สีลม คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของโครงการโรบินสัน สีลม มูลค่า 1,090 ล้านบาท เพื่อทำการรีโนเวทเป็นอาคารมิกซ์ยูส รวมแล้วในระยะ 2 เดือน (มี.ค.-เม.ย.) เฟรเซอร์ส ใช้งบกับการซื้อ 3 รายการข้างต้นไปแล้วเกือบ 5,000 ล้านบาท

ตั้งงบเก็บแลนด์แบงก์อีก 1 หมื่นล้าน
ยังไม่รวมการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยที่ในปี 2564 เฟรเซอร์ส โฮมมีแผนจะซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาทั้งโครงการบ้านและคอนโดอีก 10,720 ล้านบาท รวมถึงเงินลงทุนสำหรับการซื้อกิจการที่ไปต่อไม่ได้อีกจำนวนหนึ่ง

          นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะสร้างความเติบโตให้แก่ธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน และความพร้อมด้านการลงทุนของบริษัท ทำให้เล็งเห็นจังหวะที่เหมาะสมในการขยายการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูง

เต็มพอร์ตมิกซ์ยูสบนถนนพระราม4
การซื้อทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูงในย่านสีลมครั้งนี้ เฟรเซอร์ส จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส โดยมีงบลงทุนประมาณ 1,800 ล้านบาท เพื่อให้บริการแก่ผู้เช่ากลุ่มองค์กรชั้นนำที่ต้องการพื้นที่สำนักงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันบนทำเลใจกลางแหล่งธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ

           การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ซึ่งจะทำให้บริษัทพร้อมรับมือกับความท้าทายและความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะช่วยสร้างการเติบโตและกระจายความเสี่ยงให้แก่พอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม ภายใต้การบริหารจัดการของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ที่ปัจจุบันมีอาคารสำนักงานเกรด A ในย่าน CBD ของกรุงเทพฯรวม 5 อาคารประกอบด้วย อาคารมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์, อาคาร เอฟวายไอ เซ็นเตอร์, อาคารโกลเด้นแลนด์, อาคารสาทรสแควร์ และ อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ โดยโครงการแห่งมิกซ์ยูสใหม่นี้จะประกอบด้วยพื้นที่ให้บริการทั้งสิ้น 22 ชั้น และ ชั้นใต้ดินอีกจำนวน 2 ชั้น หรือคิดเป็นพื้นที่รวม 49,602 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ตรงหัวมุมถนนสีลม ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง และ สถานีรถไฟฟ้า MRT สีลม จึงสะดวกต่อการเดินทาง

          นายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเข้าซื้อทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพื่อมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำ นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้บริษัทฯสามารถเพิ่มพื้นที่ให้บริการกว่า 49,000 ตร.ม. ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ คาดว่าโครงการจะพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 4/2565 และเมื่อพัฒนาแล้วเสร็จ บริษัทฯจะมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้นร่วม 260,000 ตร.ม. ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พอร์ตโฟลิโอของกลุ่ม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย)ยึดเบ็ดเสร็จมูลค่ารวม 1.66 แสนล.
การซื้อโรบินสัน สีลม มาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสของกลุ่มเจ้าสัวเจริญครั้งนี้ ถือเป็นการยึดพื้นที่จุดยุทธศาสตร์บนถนนพระราม 4 ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ไล่ตั้งแต่แยกสามย่านมีโครงการสามย่าน มิตรทาวน์ มูลค่า 8,500 ล้านบาท แยกสีลม มีมิกซ์ยูสโครงการใหม่ล่าสุดมูลค่า 1,800 ล้านบาท แยกสาทร-วิทยุ มีโครงการ วัน แบงค็อก มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท ส่วนแยกคลองเตยมีถึง 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ เดอะ พาร์ค มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท โครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่ใช้เงินลงทุนอีก 11,000 ล้านบาท

          รวมแล้วเจ้าสัวเจริญมีทรัพย์สินบนถนนพระราม 4 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 166,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว นี่ถ้าหัวลำโพงที่กำลังจะปลดระวางและเตรียมจะปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และพัฒนาพื้นที่โดยรอบเป็นเชิงพาณิชย์ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 3 หมื่นล้านบาท โปรเจ็กต์ยักษ์ขนาดนี้เจ้าสัวคงไม่พลาดแน่นอน

 

ที่มา  :  PROPERTY MENTOR

Share